เครื่องหมายและเลขหมายหีบห่อ (Shipping Marks) คืออะไร? สำคัญแค่ไหนในการนำเข้า–ส่งออกสินค้า
Key Takeaways
• เครื่องหมายและเลขหมายหีบห่อ (Shipping Marks) คือ ข้อความ ตัวเลข หรือสัญลักษณ์ ที่ระบุไว้บนหีบห่อสินค้าเพื่อยืนยันว่าเป็นสินค้าตามใบตราส่ง (Bill of Lading)
• หน้าที่หลักคือช่วยให้การขนส่งระหว่างประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และไม่มีความสับสนในแต่ละขั้นตอนของโลจิสติกส์
• หากไม่จัดทำ Shipping Marks ตามกฎหมายไทย อาจถูกปรับสูงสุดถึง 50,000 บาท
• สามารถใช้คำว่า NO SHIPPING MARK ได้ในบางกรณี เช่น ของที่ไม่บรรจุหีบห่อ ของใช้ส่วนตัว หรือของที่มาเป็นกอง
• ผู้ประกอบการนำเข้า–ส่งออกควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า Shipping Marks ที่แสดงบนหีบห่อ ตรงกับที่ระบุในเอกสารต่าง ๆ เช่น Commercial Invoice, Packing List และ B/L
เครื่องหมายและเลขหมายหีบห่อ (Shipping Marks) คืออะไร?
Shipping Marks คือ สัญลักษณ์ ข้อความ หรือตัวเลข ที่ถูกระบุไว้บนหีบห่อสินค้า เพื่อบอกว่าสินค้านี้ตรงกับใบตราส่งใด และเป็นของผู้ส่ง–ผู้รับรายใด จุดประสงค์หลักคือเพื่อให้กระบวนการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งมักมีสินค้าและเจ้าของสินค้าหลายราย ดำเนินไปอย่างสะดวกและปลอดภัย
นอกจากช่วยลดความสับสนในขั้นตอนขนถ่ายสินค้าแล้ว ยังช่วยป้องกันความเสียหายและการจัดการที่ผิดพลาด เช่น การส่งไปผิดปลายทาง หรือการนำสินค้าไปตรวจสอบผิดชุด
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Shipping Marks ในไทย
ตาม พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 211 กำหนดว่า ผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกที่ไม่จัดให้มี Shipping Marks หรือไม่แสดงในเอกสารที่เกี่ยวข้อง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
แต่หากเกิดความผิดโดยไม่เจตนา สามารถเปรียบเทียบปรับที่ 1,000 บาท และต้องจัดทำเครื่องหมายเลขหมายใหม่ให้ถูกต้อง
หลักการแสดง Shipping Marks ตามกรมศุลกากร
กรมศุลกากรได้ออก ประกาศที่ 132/2561 เพื่อกำหนดแนวทางการระบุ Shipping Marks บนเอกสารศุลกากร ดังนี้
• หากเป็นข้อความ ต้องบันทึกตามจริง หากเกิน 512 ตัวอักษร ให้ระบุได้เพียง 512 ตัวอักษร
• หากเป็นภาษาต่างประเทศที่บันทึกไม่ได้ (เช่น ภาษาจีน) ให้ระบุคำว่า “PICTURE” หากเป็นรูปภาพ ให้ระบุคำว่า “PICTURE” เช่นกัน
กรณีที่สามารถใช้คำว่า “NO SHIPPING MARK” ได้
ในบางกรณี ผู้ส่งออก – ผู้นำเข้าไม่จำเป็นต้องระบุ Shipping Marks โดยสามารถใช้คำว่า NO SHIPPING MARK แทน ได้แก่
• ของใช้ส่วนตัว ประเภทที่ 5 ภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530
• ของที่ได้รับเอกสิทธิ์ทางการทูตหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ
• ของที่ไม่ได้บรรจุหีบห่อ เช่น รถยนต์ เหล็กก้อน หรือกระเบื้อง
• ของเหลวบรรจุขวดใหญ่ เช่น น้ำกรด
• ของที่มาเป็นกอง เช่น ถ่านหิน
• ของที่บรรจุในหีบห่อมาตรฐานเดียว เช่น ลังนม ลังเบียร์ หรืออาหารบรรจุกล่อง
• ของที่มาในถังเหล็กหรือถังไฟเบอร์ที่มีมาตรฐานเดียวกัน
• ของที่มาในกระสอบหรือถุงที่มีจำนวนและขนาดเท่ากัน เช่น ปุ๋ย ข้าวสาลี น้ำตาล
• ของที่บรรจุมาในหีบโปร่ง เช่น เครื่องยนต์
สรุป
เครื่องหมายและเลขหมายหีบห่อ (Shipping Marks) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพราะช่วยให้สินค้าถูกส่งไปถึงปลายทางอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และปลอดภัย นอกจากนี้ยังเป็นข้อกำหนดตามกฎหมายศุลกากรไทยที่ผู้ประกอบการนำเข้า–ส่งออกต้องปฏิบัติตาม
ดังนั้น ก่อนการนำเข้าหรือส่งออกสินค้า ผู้ประกอบการควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า Shipping Marks ที่ติดบนหีบห่อและที่แสดงในเอกสารสำคัญต่าง ๆ สอดคล้องกัน เพื่อป้องกันปัญหาความล่าช้า และหลีกเลี่ยงค่าปรับที่ไม่จำเป็น
สาระน่ารู้
-
Shipping Marks หรือเครื่องหมายและเลขหมายหีบห่อ คือสัญลักษณ์ที่ติดบนหีบห่อสินค้า เพื่อระบุผู้ส่ง–ผู้ร...
-
ใบกำกับภาษีคืออะไร? คือเอกสารสำคัญที่ใช้เป็นหลักฐานการซื้อขายสำหรับธุรกิจที่จด VAT โดยมีหลายประเภทแล...
-
สินค้า GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ คือสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดเฉพาะ และคุณภาพหรือชื่อเสียงเชื่อมโยง...
-
สินค้าหลุดจำนำคือทรัพย์สินที่เจ้าของไม่สามารถไถ่ถอนคืนจากโรงรับจำนำภายในเวลาที่กำหนด จึงถูกนำออกจำหน...
-
ยุคนี้การนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทยง่ายขึ้น เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยากลดต้นทุน เพิ่มกำไร บทความ...
-
การตั้งแคมป์ฮิตสุดในยุคนี้ ไม่ว่าจะป่า เขา หรือทะเล สำหรับมือใหม่ควรรู้ว่าอุปกรณ์จำเป็นมีอะไรบ้าง บท...
-
จีนยังคงเป็นโรงงานของโลกในปี 2025 ด้วยอุตสาหกรรมที่เติบโตแบบก้าวกระโดดและมีศักยภาพส่งออกสูง นักธุรกิ...
-
การนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ประกอบการไทย เพราะจีนมีสินค้าราคาถูกและหลากหลาย บทความนี้ร...